Skip to main content

SEO: บทลงโทษ ผู้ที่ทำผิดกฎ SEO หรือผู้ที่พยายามปั่น SEO

บทลงโทษ ผู้ที่ทำผิดกฎ SEO หรือผู้ที่พยายามปั่น SEO

1.การหลอกตา User โดยการซ่อน keyword หรือ link ต่างๆ
หลายท่านๆ คงเคยเห็นเว็บไซต์บางเว็บที่ทำการซ่อน keyword หรือ link ไว้ในหน้าเว็บไซต์ โดยการใช้ตัวอักษรสีขาว สีเดียวกับสีพื้นหลัง ซึ่ง user จะมองไม่เห็น แต่หากลองกด ctrl + a แล้ว ท่านจะเห็น keyword ดังกล่าวซ่อนแอบแฝงอยู่ หรือโดยวิธีการใช้ style sheet บังคับตำแหน่ง ให้เนื้อหาของเว็บออกไปอยู่นอก Browser วิธีการนี้เป็นตัวอย่างง่ายๆ ที่เห็นได้ชัดเจนว่า เว็บไซต์ดังกล่าว พยายามทำสิ่งที่ user เห็น กับ robot เห็นเป็นคนละอย่างกัน
นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างการทำผิดกฎอีกมากมาย ที่ถือว่าเป็น seo spam เช่น การใช้ Javascript ทำ Redirect, การทำ Link Farm, การทำ Doorway, การทำ Link โดยใช้รูปภาพขนาด 1X1 Pixel, การทำ Cloaking โดยการใช้ HTTP_USER_AGENT เช็ค IP ของ Googlebot แล้วให้ robot อ่านหน้า Html ที่ต้องการ,การใช้ tag ในทางที่ผิด โดยที่ไม่รู้ความหมายของ tag ที่ใช้จริงๆด้วยซ้ำ และอีกมากมายที่เป็นวิธีที่พยายามจะโกง Robot ซึ่งทางเว็บไซต์จะไม่ขอกล่าว

2.หากผู้ตรวจสอบ Google พบแล้วเว็บของท่านจะเป็นอย่างไร??
การทำ seo นั้นก็เหมือนกับดาบสองคมคือ หากทำถูกหลักและทำอย่างพอดี เว็บของท่านจะอยู่รอดปลอดภัย แต่หากท่านทำผิดหลัก หรือพยายามจงใจปั่นให้เว็บไซต์ของท่านขึ้นอันดับต้นๆ แล้วล่ะ ก็ แน่นอนเว็บของท่านอาจจะยิ่งตกอันดับลงไป หรือถึงขนาดขั้น ถูกตัดออกจากระบบฐานข้อมูล google เลยก็ได้ ตัวอย่างที่เห็นเร็วๆนี้ก็คือ เว็บที่หลายๆ คนรู้จักดีเช่น
appjob.com ซึ่งก่อนโดนลงโทษ คนเข้าประมาณ 150,000 IP ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ประมาณ 5,000 IP
pixiart.com ก่อนโดนลงโทษ คนเข้าประมาณ 50,000 IP ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ประมาณ 1,000 IP
doctorsan.com ก่อนโดนลงโทษ คนเข้าประมาณ 60,000 IP ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ประมาณ 3,000 IP
khonkaenlink.com ก่อนโดนลงโทษ คนเข้าประมาณ 25,000 IP ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ประมาณ 600 IP
superza.net ก่อนโดนลงโทษ คนเข้าประมาณ 15,000 IP ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ประมาณ 200 IP
(สถิติจากเว็บ truehits.net )
ซึ่งจริงๆแล้วในต่างประเทศนั้น การลงโทษหรือการตัดเว็บไซต์ดังกล่าวออกจากฐานข้อมูล Google นั้นมีมานานแล้ว เพียงแต่ในเมืองไทย เพิ่งจะเริ่มไม่นานนี้เอง

3.โดน Google ลงโทษแล้ว จะกลับมาคืนได้หรือไม่??
ลองคิดดูว่า หากคุณเคยต้องคดีมาแล้ว แต่บอกว่าจะกลับมาเป็นคนดีเหมือนเดิม ถามว่าความเชื่อถือของคุณ จะกลับมาได้เหมือนเดิมไหม? คำตอบก็คงเหมือนกัน ในอเมริกา มีเว็บไซต์ที่เป็นลักษณะ web directory (คล้ายๆ pixiart หรืออีกหลายๆ เว็บไซต์)ที่โดน Google ตัดออกจากระบบไป ทำให้บริษัทดังกล่าวถึงกลับล้มละลายไปในเพียงไม่กี่เดือน จนถึงขั้นฟ้องร้องขึ้นศาลกับเลย แน่นอนว่าทนายฝั่ง Google ย่อมเป็นผู้ชนะคดีไป ด้วยเหตุผลทีี่ว่า เว็บไซต์ดังกล่าวไม่มีประโยชน์ต่อผลการค้นหาของ Google ในทางกลับกันหากคุณเองอยู่ในฐานะผู้ตรวจสอบของ Google คุณเองก็คงไม่อยากเห็นผลการค้นหาของคุณ มีแต่เว็บขยะ ขึ้นมาเรียงรายกัันในอันดับต้นๆ จริงไหม?

4.บริการทำ SEO ให้ฟรี !! สำหรับลูกค้า
สิทธิพิเศษ !! สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ ทางบริษัทจะ โปรโมทเว็บไซต์ ของท่านให้ฟรี 1 Keyword ตัวอย่างเช่น คำว่า “คอมพิวเตอร์” ใน Google ท่านจะพบเว็บ อยู่ในอันดับต้นๆ)

ที่มา:

http://www.krodysolution.com

SEO: แจก Imacro สร้าง Back Link 500+ แบบ Auto

Imacro สร้าง Back Link แบบ Auto มากกว่า 500 Back Link

ได้ Back Link แน่นอนครับ

ดาวน์โหลดแล้วแตกไฟล์จะมีอยู่ 2 ไฟล์ คือ backlinkgen.iim และ phpbb2.CSV

นำไฟล์ phpbb2 ไปไว้ในโฟลเดอร์ Datasource

ส่วนไฟล์ backlinkgen.iim ให้เปลี่ยนค่าตามภาพ เฉพาะในวงกลม สีแดงนะครับ

แล้วนำไปไว้ในโฟลเดอร์ Imacro

จากนั้นก็ Run โดยใช้ Fire Fox

*** ในไฟล์ phpbb2.csv จะเป็นรายการเว็บนะครับ

เช่น http://www.promote.in.th/profile.php?mode=register&agreed=true

จะได้ backlink จากหน้า

http://www.promote.in.th/profile.php?mode=viewprofile&u=134486

ลองใช้ดูนะครับ

ดาวน์โหลด

http://www.promote.in.th/imacrophpbbsubmit.zip

Credit: http://www.promote.in.th/

Credit Writer: iampum

เอา ตัวติดตั้ง HotSpot Server บน Linux มาฝากครับ

คำชี้แจง
Smile Authentication Server ตัวแรกที่ผมปล่อยนี้
ที่ผมเลือก ClearOS เพราะมันง่ายสำหรับการติดตั้งและบริหารจัดการ สำหรับมือใหม่
เนื่องจาก ClearOS รองรับ MutiWan, Layer7, และอื่นๆ อีกมากมาย แถมมี Webconfig ใช้บริหารจัดการระบบด้วย
โดยเป้าหมายในการพัฒนาของผมอยู่ที่การพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ทุกออฟชั่น
และใช้งานร่วมกับระบบ PPPOE ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และรวมตัวติดตั้งนี้เข้าไว้ในแผ่นติดตั้ง Linux
และ SetUp Config ต่างๆ ผ่านหน้า Web Page

โปรแกรมชุดนี้ เกิดขึ้นจากการที่ผมนำความรู้ของเพื่่อนสมาชิก มาประยุกต์รวมกันนะครับ
แต่อย่าตั้งความหวังไว้สูงนะครับ สำหรับโปรแกรมชุดนี้
เพราะผมพัฒนาจากความไม่รู้เรื่อง php และ mysql เลย
ลองผิดลองถูกจนเริ่มเข้าใจ php และ mysql เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เนื่องด้วยความรู้ผมมีจำกัด ผมเลยทำได้ไม่ถึงครึ่งที่ผมคิดไว้
ไว้ผมมีเวลามากกว่านี้ ผมจะศึกษา php อย่างจริงๆจังๆ เพื่อมาพัฒนาอย่างถูกต้อง
และพัฒนาให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ครับ

สำหรับผู้ที่โหลดไปทดลองใช้ พบข้อบกพร่อง หรือ เห็นว่าส่วนไหนไม่ถูกต้อง
กรุณาโพสแจ้งด้วยนะครับ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาต่อไป (more…)

ระบบทำความเย็น IDC คิดว่าคงจะทำให้ท่าเข้าใจและนำไปใช้ไม่มากก็น้อยครับ

ก่ออื่นต้องบอกว่า มือใหม่ครับ แต่อยากให้เข้าใจระบบทำความเย็น IDC ว่าทำงานยังงัย
จากการที่ท่าน ได้ทำ Colo ที่ IDC แต่ละที่ ส่วนมาก ระบบทำความเย็นจะไม่แตกต่างกันมากนัก และจะเห็นว่าจะเป็นการวางลักษณะหลังชนหลังหน้าชนหน้า
1.ระบบระบายอากาศ จะเป็นการ ที่ความเย็นเข้าหน้าตู้ออกหลังตู้ และความร้อน ก็จะวนไปที่ระบบทำความเย็นเพื่อทำการเปลี่ยนความร้อนให้เป็นความเย็น
– เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นการวางหน้า ต่อ หลัง เครื่องด้านหลังก็จะ ดูดความร้อนส่งผ่านต่อ ไป ตู้ด้านหลังก็คงได้แต่ระบบทำความร้อน

2.ต้องเข้าใจระบบการทำงานของ Server ก่อนว่ามีลักษณะการระบายอากาศ แบบ ไหน ซึ่ง Server ส่วนมาก จะเป็นลักษณะ อากาศผ่านจากด้านหน้าไปด้านหลัง
แต่ปัจจุบันมีการ นำ mini pc เข้ามาทำหรือ computer PC ต่างๆ มาทำเป็น Server มากมาย จะเห็นว่ามีการ ระบายออกด้านข้าง แตกต่างกันไป
– การวาง Server จำเป็นต้องออกแบบ ด้วยครับว่าจะวางยังงัยให้ เกิดการไหลเวียน โดยให้ดูดความเย็นจากหน้าตู้ไปหลังตู้ ครับ เป็นสาเหตุหลักที่ต้องบอกว่า ทำให้ระบบ ทำความเย็น
IDC ไม่เป็นไปตามระบบ ที่เค้าออกแบบไว้
– เพราะ ถ้าท่านวาง Server (mini)ที่ระบายออกด้านข้าง แล้ว ช่องระบายอากาศ หรือพัดลมเป่าอากาศ ทับกับพื้นก็คงไม่ได้ช่วยในการระบาย ความร้อนของเครื่องแต่อย่างใด
– การปล่อยความร้อน ออกทางหน้าดู ซึ้งไม่เป็นไป ตามหลักการออกแบบ IDC ก็จะเกิดการเรียกว่า ม่านอากาศ ทำให้ตู้หลังๆ ไม่สามารถที่จะได้รับความเย็นได้ จะเป็นสาเหตุ ห้อง IDC เกิดความร้อน
– การสะสมความร้อน ในตู้ เนื่องจากการวางไม่ถูกต้อง จึงทำให้ เครื่องไม่ได้ รับความเย็นจากภายนอก ความร้อนก็จะวนอยู่ในตู้ ถึงแม้ ข้างนอกจะเย็น แต่ตู้ก็ยังร้อนอยู่เหมือนเดิม

ก็คงอธิบายนิดๆหน่อยๆ เผื่อท่านจะได้สังเกตุการวาง Server ในตู้ท่านได้และช่วยทำให้ตู้ท่านระบายความร้อนได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อยครับ อายุ HW จะได้ใช้งานได้นานขึ้น
ไม่ต้องคอยมาเดี๋ยงโน้นเจ้ง เดี๋ยวนั้นพัง ทำให้ HD ข้อมูลของท่านพังไวก่อนกำหนด

Credit: i-Fastnets.com

http://www.thaihosttalk.com/

บริการวางเซิฟเวอร์ ณ ส่วนกลาง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บริการวางเซิฟเวอร์ ณ ส่วนกลาง หรือ Co-location centre (colocation center) (ย่อ “colo, โคโล”) เป็นรูปแบบของศูนย์ข้อมูล ที่ผู้ใช้บริการหลายๆ คน สามารถวางเครือข่าย, เซิฟเวอร์ และ เชื่อมต่อกับระบบ อินเทอร์เน็ต และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเครือข่ายอื่นๆ

ในประเทศไทย มีบริการวางเซิฟเวอร์หลายๆ ที่ อาทิเช่นที่ กสท. โทรคมนาคม และนิยมใช้บริการต่างๆ เช่น เซิฟเวอร์ส่วนตัว, Bittorrent เป็นต้น และยังมีในรูปแบบการใช้บริการ “เช่าโคโล” อีกด้วย

รูปแบบบริการในประเทศไทย

ในประเทศไทย มักนิยมเรียกว่า โคโล ทับศัพท์จากภาษาอังกฤษ โดยสามารถแบ่งบริการของ โคโลหลักๆ ได้ สองประเภท

วางเซิฟเวอร์ ณ ส่วนกลาง

คือการนำเซิฟเวอร์ส่วนตัวของผู้ใช้บริการมาวางไว้ ณ ศูนย์กลางให้บริการอินเทอร์เน็ตเช่นที่ กสท. โทรคมนาคม เป็นต้น

บริการแบ่งให้เช่า

คือแบ่งเซิฟเวอร์ให้ในการทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ จะออกมาในรูปแบบชุดบริการของ Bittorrent ซึ่งผู้ให้บริการจะนำเซิฟเวอร์ของตน มาวางที่ ศูนย์ข้อมูล หลังจากนั้นจึงทำการแบ่งเซิฟเวอร์ให้ผู้ใช้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งตามความเป็นจริง ควรเรียกว่า Share Host หรือ Virtual Private Server มากกว่า แต่เนื่องจากผู้ให้บริการนำเซิฟเวอร์ของตนมาวางที่ศูนย์ข้อมูล จึงใช้คำว่า โคโล ในการเสนอขาย

Credit http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%9F%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C_%E0%B8%93_%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87

[Network] question & answer ?

Q: Which type of network application requires more elaborate software: connectionoriented
or connectionless? Explain.

A: Connection Oriented ใช้มากกว่า
เพราะ
Connection-Oriented ต้องสร้าง connection ทำให้เสียเวลาในตอนเริ่มต้นทำการส่ง หลังจากนั้นจึงเริ่มส่งได้ ข้อดีคือมีการรับประกันว่าข้อมูลถึงปลายทางอย่างถูกต้อง ตัวอย่างรูปแบบการส่งคือ TCP
Connectionless ไม่มีการสร้าง connection เหมือนกับแบบ Connection-oriented สามารถทำการส่งได้เลย ทำได้รวดเร็ว แต่ไม่มีการรับประกันว่าข้อมูลถึงปลายทางถูกต้อง ตัวอย่างรูปแบบการส่งคือแบบ UDP

Q: What are the differences between a centralized routing and a distributed routing?
A:
การค้นหาเส้นทางจากโหนดศูนย์กลาง (Centralized Routing) จะกำหนดให้โหนด ซึ่งทำหน้าที่ในการเลือกเส้นทางเดินข้อมูลให้กับโหนดอื่นในระบบเครือข่าย โหนดนี้จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการบริหารเครือข่ายการค้นหาเส้นทาง ซึ่งจะต้องเก็บตารางเส้นทางเดินข้อมูลและจัดการปรับปรุงข้อมูลข่าวสารทั้ง หมดที่เกิดขึ้นตลอดเวลา โหนดอื่นที่เหลือจะต้องรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานะการทำงานของตนเอง เช่น ปริมาณข้อมูลที่รับเข้ามา ปริมาณข้อมูลที่ส่งออกไปและกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่โหนดศูนย์กลางเป็นระยะ ดังนั้นโหนดศูนย์กลางจึงเป็นที่รวบรวมข้อมูลสถานะการทำงานทั้งหมดที่เกิด ขึ้นบนระบบเครือข่าย จึงทราบว่าส่วนใดในระบบเครือข่ายที่มีการใช้งานมากหรือน้อยเพียงใด
ข้อด้อยที่สำคัญของการทำงานแบบศูนย์กลางคือ ถ้าตำแหน่ง (สถานที่ที่ตั้งที่ใช้งานจริง) ของโหนดศูนย์กลางไม่อยู่ตรงกลางระบบแล้ว ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางและสถานะการทำงานของโหนดที่อยู่อีกฟากหนึ่งจะต้องใช้ เวลาพอสมควรกว่าที่จะเดินทางมาถึงโหนดศูนย์กลาง ระยะเวลาที่ช้าเกินไปนี้อาจทำให้ข้อมูลในตารางเส้นทางไม่สอดคล้องกับความ เป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น ประสิทธิภาพของระบบเครือข่ายก็จะลดลง ปัญหาที่สำคัญอีกข้อหนึ่งคือ ถ้าโหนดศูนย์กลางเกิดหยุดทำงาน โหนดอื่นในระบบจะไม่สามารถค้นหาเส้นทางได้

การค้นหาเส้นทางที่ตัวโหนดเอง (Distributed Routing) กำหนดให้แต่ละโหนดจัดการเก็บ ตารางเส้นทางไว้ โดยแต่ละโหนดมีหน้าที่ส่งข้อมูลสถานะการทำงาน (เช่นเดียวกับแบบศูนย์กลาง) ไปยังโหนดข้างเคียงของตนเองทุกโหนด ข้อมูลในตารางเส้นทางจึงเป็นเพียงข้อมูลสถานะการทำงานย่อย และเนื่องจากจำนวนโหนดข้างเคียงจะมีอยู่ไม่มากนักทำให้แต่ละโหนดสามารถปรับ ปรุงข้อมูลให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา การที่โหนดหนึ่งหยุดทำงานก็จะไม่มีผลต่อการค้นหาเส้นทางของโหนดอื่น ในระบบนี้ แม้ว่าจะมีปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้น (เพื่อแจ้งสถานะการทำงาน) แต่ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ก็ถือว่าคุ้มค่า
สรุป
ความแตกต่างระหว่าง Centralized Routing กับ Distributed Routing
Centralized Routing มีการเก็บข้อมูลไว้ที่โหนดเดียว เวลาระบบโหนดศูนย์กลางล้มเหลวของสัญญาณ ก็จะทำให้โหนดอื่นใช้งานไม่ได้ไปด้วย
Distributed Routing โหนดทุกโหนดเป็นศูนย์กลางเอง ระบบนี้แทบที่จะไม่มีการล้มเหลวของสัญญาณแน่นอน แต่ระบบมีการใช้ทรัพยากรของระบบในการจัดการปริมาณของข้อมูลสูงมาก

Credit: http://www.dcs.cmru.ac.th/lesson6_2.php

Translate »